ทำความรู้จักกับต้นกำเนิด Nike

ทำความรู้จักกับต้นกำเนิด Nike

ในทุกๆ วัน เราต้องทำกิจกรรมต่างๆ มากมายที่ต้องมีการเดินทางไปนู้น นี่ นั้น ทั้งเดินทั้งวิ่งและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่ง “รองเท้า” เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เลยหล่ะครับ หนึ่งในแบรนด์รองเท้าผ้าใบที่น่าสนใจที่ทั้งใช่สำหรับทำงานหรือเล่นกีฬาต่างๆ ก็คงจะหนีพ้น “รองเท้าแบรนด์ Nike” อย่างแน่นอนครับ แล้วคุณเคยทราบประวัติกันหรือไม่ครับว่าเป็นมาอย่างไรกัน…บทความนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ต้นกำเนิด Nike” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…..เราไปชมกันเล้ยย!!

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์รองเท้า “Nike”

เป็นบริษัทผลิตเครื่องกีฬา อย่างรองเท้า อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย มีบริษัทแม่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย บิลล์ บาวเวอร์แมน และ ฟิล ไนต์

ปี 1948 บิลล์ บาวเวอร์แมนซึ่งเป็นโค้ชให้กับมหาวิทยาลัยออริกอน มีผลงานอย่างในการแข่งขัน NCAA outdoor championships ในปี 1962, 1964, 1965 และ 1970 เขายังทำให้ทีมชาติอเมริกาสามารถพิชิตถึง 6 เหรียญทอง ในโอลิมปิก และฟิล ไนต์ได้รู้จักกับบาวเวอร์แมนในขณะที่เขาเป็นนักวิ่งให้กับมหาวิทยาลัยออริกอน ซึ่งทั้งคู่ต่างต้องการรองเท้าคุณภาพเยี่ยมที่มีความเบาและทนทานสำหรับการแข่งขัน จนในปี 1962 ไนต์ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลและพบว่ารองเท้ากีฬาจากประเทศญี่ปุ่นมีคุณภาพดี และมีราคาถูกกว่าสินค้ากีฬาจากประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นผู้นำตลาดในอเมริกาอยู่ขณะนั้น และหลังจากที่ไนต์เรียนจบด้าน MBA จึงได้ออกเดินทางไปทั่วโลก และไปที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเขาได้มีโอกาสพบกับ Onitsuka Tiger Company โรงงานผลิตรองเท้ากีฬาของญี่ปุ่น และชักชวนให้ Tiger ขยายตลาดเข้ามาในอเมริกา

ไนต์ใช้ชื่อสินค้าว่า “Blue Ribbon Sports” หรือ BRS ซึ่งเป็นชื่อเดิมของไนกี้ และได้ก่อตั้งบริษัทร่วมกับบาวเวอร์แมนที่ชื่อ BRS Inc. ขึ้น โดย ไนต์ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบทางด้านการเงินและการตลาด ส่วนบาวเวอร์แมน ดูแลทางด้านการพัฒนาออกแบบรองเท้ากีฬา

ต่อมาในปี 1970 บาวเวอร์แมนทดลองทำพื้นรองเท้ายางจากเครื่องอบขนมวาฟเฟิล (Waffle) ของภรรยาเขา ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำหรับรองเท้ากีฬา ที่พื้นรองเท้าเป็นแบบที่เห็นในทุกวันนี้ ถัดมาในปี 1971 บาวเวอร์แมนจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า Nike Inc. ในปีถัดมา BRS Inc. และ Onitsuka Tiger ได้แยกบริษัทออกจากกันอันเนื่องจากความขัดแย้งกันทางธุรกิจ ในปีนี้เองได้ออกแบรนด์ไนกี้เพื่อเจาะกลุ่มนักกีฬากรีฑาในโอลิมปิก ต่อมาในปี 1981 BRS Inc. และ Nike Inc. ได้รวมบริษัทเข้าด้วยกัน

ในปี 1984 ไมเคิล จอร์แดน นักบาสเกตบอลชื่อดังได้มาร่วมงานกับไนกี้ ซึ่งทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด โดยมีผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ชื่อแบรนด์เป็นชื่อ “Jordan” และในปี 1997 สินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ “M.J.” แตกไลน์ออกไปโดยใช้ชื่อ “12-Star products” (ในปีนั้นไมเคิล จอร์แดนได้รับเป็นผู้เล่น All-Star Game ถึง 12 ครั้ง) และไนกี้ยังประสบความสำเร็จกับแคมเปญ โฆษณาชุด “Just Do It” อีกด้วย (ขอบคุณข้อมูลจาก ไนกี้ (บริษัท) – วิกิพีเดีย (wikipedia.org))

จุดเด่นของแบรนด์รองเท้า Nike อย่าง Nike Air เป็นอย่างไร?

เทคโนโลยี Nike Air ประกอบด้วยแรงดันอากาศภายในถุงที่แข็งแรงแต่ยืดหยุ่น พร้อมให้ความยืดหยุ่นและการสปริงที่มากกว่าโดยไม่ทำให้เสียโครงสร้าง ในขณะที่ส่วน Air Sole ยังคงรูปทรงตามเดิมโดยให้ความยืดหยุ่น ลดแรงกระแทก และช่วยให้รองเท้าแนบกระชับอย่างมีน้ำหนักเบาเสมอ

Slogan “Just do It” มีที่มาที่ไปอย่างไร?

เป็นแคมเปญโฆษณาของไนกี้ เกิดขึ้นในปี 1988 เมื่อไนกี้ประสบปัญหาแข่งขันกับคู่แข่ง จึงสร้างแคมเปญโฆษณานี้ขึ้นมา กลายเป็นว่าเมื่อโฆษณาถูกแพร่ภาพออกอากาศ กระแสของแคมเปญดีมากและกลายเป็นที่กล่าวถึงวลี “Just Do It” หรือแปลว่า “จงออกไปทำซะ” และกลายมาเป็นคำขวัญของไนกี้ในปัจจุบันนั้นเองครับ

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ประวัติความเป็นมาของแบรนด์รองเท้า “Nike” คร่าวๆ ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันคร่าวๆ หวังว่าจะได้ความรู้กันมากขึ้นนะครับ